ทุกคนคงเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกเหมือนสมองมันโดนไฟฟ้าช็อตจนไม่สามารถทำงานอะไรได้เลย นั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือนั่งอยู่กับงานซ้ำๆ จนอยากจะโยนทุกอย่างทิ้งไป บอกเลยว่าอาการแบบนี้มันคืออาการ “Burnout” หรือ “สมองล้า” ที่เกิดจากการทำงานหนักเกินไปจนสมองและร่างกายหมดพลัง ไม่สามารถจดจ่อกับงานหรือกิจกรรมใดๆ ได้ ความเหนื่อยล้าแบบนี้มันจะไม่หายไปถ้าเราไม่จัดการกับมันอย่างถูกวิธี วันนี้เราจะมาดูวิธีแก้ไข อาการ Burnout ที่จะช่วยให้กลับมามีพลังเหมือนเดิมแบบสดใส!
อ่านต่อบทความอื่นๆ คลิกที่นี่ >>
อาการ Burnout คืออะไร? ทำไมถึงเกิดขึ้น?
ก่อนจะไปหาวิธีแก้ไขกัน เราต้องเข้าใจให้ดีเสียก่อนว่า Burnout คืออะไร โดยทั่วไปอาการนี้เกิดจากความเครียดสะสมที่เกิดจากการทำงานหนักเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะความคาดหวังสูงจากตัวเองหรือคนรอบข้าง โดยเฉพาะในสังคมที่ต้องทำงานหนักตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งการทำงานที่ไม่เคยหยุดพัก
สมองและร่างกายของเราจะเริ่มสะสมความเครียดจนกระทั่งไม่สามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิม อาการที่สังเกตได้ง่ายๆ ได้แก่ ความเหนื่อยล้า ความหงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิ หรือแม้กระทั่งอารมณ์เสียบ่อยๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนอาจจะมีอาการซึมเศร้าหรือเครียดมากๆ จนไม่อยากทำอะไรเลย
รู้จักสัญญาณของ Burnout
การรู้จักสัญญาณของ Burnout นั้นสำคัญมาก เพราะถ้าเราสามารถจับสัญญาณเหล่านี้ได้เร็ว เราจะสามารถแก้ไขได้ทันเวลา โดยอาการที่มักพบเมื่อเกิด Burnout คือ
- อารมณ์ไม่ดีตลอดเวลา: เริ่มหงุดหงิดง่าย มีความรู้สึกเครียดหรือเบื่อหน่ายต่อสิ่งต่างๆ ที่เคยสนุก
- ขาดสมาธิ: สมาธิลดลง ทำงานช้า หรือทำงานไม่เสร็จตามกำหนด
- เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไร: แม้แต่สิ่งที่เคยชอบทำก็รู้สึกไม่อยากทำแล้ว
- รู้สึกสูญเสียความหมาย: อาจจะเริ่มรู้สึกว่าทำงานไปก็ไม่เห็นผล หรือการทำงานไม่ได้มีความหมายเท่าที่คิด
- สุขภาพแย่ลง: ปวดหัว ปวดคอ นอนไม่หลับ หรือมีอาการทางกายภาพอื่นๆ ที่มาจากความเครียด
เมื่อสัญญาณเหล่านี้เริ่มขึ้น เราก็ต้องรีบหาวิธีแก้ไขโดยเร็ว เพราะถ้าเราปล่อยให้มันดำเนินไปเรื่อยๆ อาจจะทำให้เราหมดไฟในการทำงานไปเลย
วิธีแก้ไข อาการ Burnout !
ถ้าเราเริ่มรู้สึกว่าเรากำลังเข้าสู่โหมด Burnout หรือสมองล้า อย่าไปกลัว! เพราะมันสามารถแก้ไขได้ ถ้าเรารู้วิธีทำให้ร่างกายและสมองฟื้นตัวกลับมาสดชื่นได้แบบทันที โดยไม่ต้องใช้ยาเม็ดอะไรให้ยุ่งยาก ต่อไปนี้คือวิธีที่จะช่วยให้เรากลับมาสดใสเหมือนเดิม
1. ให้เวลาตัวเองพักผ่อนจริงๆ
ไม่ต้องไปคิดว่าการทำงานหนักตลอดเวลาเป็นสิ่งที่ดี เพราะบางครั้งการพักผ่อนก็สำคัญพอๆ กับการทำงาน การให้เวลาตัวเองได้หยุดพักเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างจริงจัง นอกจากการนอนหลับให้เพียงพอแล้ว การหยุดทำงานจริงๆ ไม่คิดเรื่องงานสักพักหนึ่งจะช่วยให้สมองฟื้นฟูได้ดีขึ้น ลองหาวันหยุดยาวๆ หรือวันหยุดสั้นๆ ในแต่ละสัปดาห์ และทำสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานให้มากที่สุด
2. ออกกำลังกายเพื่อคลายเครียด
การออกกำลังกายจะช่วยปลดปล่อยสารเอนโดรฟิน (Endorphins) ที่ทำให้เรารู้สึกดีและลดความเครียดออกไปจากร่างกาย ถ้าคุณรู้สึก Burnout ลองออกไปวิ่งเล่นที่สวนสาธารณะ หรือทำการออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ หรือการเดิน เพื่อให้ร่างกายได้ขยับและสมองได้รับการผ่อนคลาย
3. ฝึกสมาธิหรือนั่งหายใจลึกๆ
หลายคนอาจจะคิดว่า “ทำสมาธิแล้วจะดีเหรอ?” แต่อย่าลืมว่า สมาธิสามารถช่วยให้สมองของเราได้พักและลดความเครียดได้จริงๆ ลองใช้เวลาสัก 10-15 นาทีในแต่ละวันหายใจลึกๆ หรือฝึกสมาธิ จะช่วยให้คุณได้ฟื้นฟูความคิดและจิตใจให้สงบ และทำให้สมองกลับมามีพลังใหม่ๆ
4. ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ
การกลับไปทำสิ่งที่ตัวเองเคยสนุกและชอบทำจะช่วยให้เราได้รับความสุขและพลังบวกกลับคืนมาอีกครั้ง เช่น การฟังเพลงที่ชอบ การเล่นเกม หรือการไปเที่ยวในที่ที่สบายใจ ก็เป็นการช่วยเติมพลังให้ร่างกายและสมองได้พักจากความเครียดที่สะสมมา
5. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ และหาความท้าทายใหม่ๆ
บางทีอาการ Burnoutเกิดจากการทำงานที่ซ้ำซาก จำเจ หรือไม่มีความท้าทาย ลองตั้งเป้าหมายใหม่ๆ ที่เราสามารถทำได้ หรือหาความท้าทายที่สนุกสนานเพิ่มเข้าไปในชีวิต เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือเริ่มโปรเจกต์เล็กๆ ที่ไม่ต้องใช้แรงงานมากนัก เพื่อให้เรากลับมาเห็นคุณค่าของการทำงานอีกครั้ง
6. พูดคุยกับคนที่เข้าใจ
การพูดคุยกับเพื่อนหรือคนที่เข้าใจสามารถช่วยปลดปล่อยความรู้สึกเครียดได้เยอะ ลองแชร์ความรู้สึกกับคนที่คุณไว้ใจ เพื่อให้รู้ว่าเราไม่ได้เผชิญความเครียดนี้เพียงคนเดียว มันจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาก
7. อย่าทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ
บางครั้งการทำงานอย่างไม่รู้จักจบสิ้น หรือการพยายามทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ จะยิ่งทำให้เรารู้สึกเครียด ลองปล่อยวางบ้าง และยอมรับว่าบางครั้งมันก็ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ ก็จะช่วยลดความกดดันตัวเองได้เยอะ
สรุป: อย่าปล่อยให้สมองล้าเกินไป!
การ Burnout หรือสมองล้าไม่ใช่สิ่งที่เราต้องทนอยู่คนเดียว ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะหมดไฟหรือเครียดเกินไป ลองหาวิธีจัดการกับมันให้ดีขึ้น อย่าปล่อยให้มันเกินไปจนทำลายชีวิตหรือความสุขของเราเอง ถ้าเรารู้จักดูแลตัวเองและพักผ่อนให้เพียงพอ เราก็สามารถกลับมาแว้นๆ สดใสเหมือนเดิมได้แน่นอน
เพียงแค่เราทำตามขั้นตอนเหล่านี้ อย่าลืมว่าบางครั้งชีวิตก็ต้องการการพักผ่อนและการเติมพลังให้กับตัวเองบ้าง อย่าลืมที่จะฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจให้กลับมาสดชื่นกันใหม่ บอกเลยว่าเมื่อคุณกลับมาพร้อมพลังงานใหม่ๆ อาการ Burnout จะหายไปแบบไม่รู้ตัว!
หากคุณกำลังรู้สึก Burnout จากความเครียดและความซ้ำซากในชีวิต ลองหาวิธีใหม่ๆ ในการผ่อนคลายและเพิ่มความตื่นเต้นให้กับชีวิต เช่น ลองเสี่ยงโชคกับ Global Lotto แพลตฟอร์มลอตเตอรี่ที่ให้คุณมีโอกาสชนะรางวัลใหญ่แบบออนไลน์ ไม่เพียงแค่ช่วยคลายเครียด แต่ยังเปิดโอกาสให้คุณลุ้นรางวัลชีวิตใหม่ๆ ที่อาจจะทำให้ชีวิตกลับมามีสีสันและพลังใหม่ๆ ได้!
เสี่ยงโชค ลุ้นรางวัลใหญ่ เริ่มต้นแค่ 1 บาท สมัครสมาชิกเลย >>
